อนาคตใหม่ผู้ป่วยโรคไต จากการปลูกถ่ายและการรักษาที่ก้าวหน้า
- Better CAll Nika

- 12 พ.ย.
- ยาว 2 นาที

มีโอกาสไปร่วมฟังบรรยายมาเป็นความรู้เกี่ยวกับอวัยวะที่เรียกว่า “ไต” ในร่างกายของเรา หน้าที่ของไต เป็นอวัยวะสำคัญรูปร่างคล้ายถั่วอยู่ด้านหลังทั้งสองข้าง ทำหน้าที่หลักในการกรองของเสียออกจากร่างกาย ขับสารพิษ และควบคุมสมดุลน้ำ เกลือแร่ กรด-ด่าง นอกจากนี้ยังสร้างฮอร์โมนที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและควบคุมร่างกายในการสร้างวิตามินดี แคลเซียม และฟอสฟอรัส ควบคุมการสร้างกระดูกอีกด้วย
เมื่อไตทำงานผิดปกติ หรือจะส่งผลเสียให้กับร่างกายเป็นอย่างมาก ถ้าคนเราไม่มีไต หรือไตวาย หรือไตหยุดทำงาน ของเสียต่างๆจะคั่งค้างอยู่ในกระแสเลือดและในร่างกาย ทำให้เลือด และร่างกายผิดปกติ ในที่สุดอวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็จะเป็นพิษ มีภาวะหยุดทำงานและเสียชีวิตได้
คำแนะนำเพื่อลดการก่อให้เกิดโรคไตหรือ ผู้ที่เป็นผู้ป่วยโรคไต เช่น
- ควบคุมความดันโลหิตสูง โดยการควบคุมอาหาร การใช้ยาบางชนิด การพบแพทย์สม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญ เช่น
ทานยาลดความดันตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพราะยาส่วนใหญ่มีฤทธิ์ไม่เกิน 1 วัน และการหยุดยาจะทำให้ความดันกลับมาสูงอีกครั้ง หรือบางเคส แพทย์อาจต้องปรับเปลี่ยนขนาดยาหรือชนิดของยาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาอื่น ๆ เนื่องจากยาบางชนิดอาจส่งผลต่อความดันโลหิตได้

- ควบคุมระดับน้ำตาล ภาวะเบาหวานโรคเบาหวานเป็นสาเหตุส่วนใหญ่เกือบทั่วโลกของโรคไตเรื้อรัง ระดับน้ำตาลในเลือดสูงสามารถทำลายหลอดเลือดในไตซึ่งนำไปสู่โรคไตวายเรื้อรัง ความเสียหายของไตอาจเกิดได้จากโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่2 หากผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วต้องแน่ใจว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้และจะต้องเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความดันโลหิตสูง การควบคุมระดับน้ำตาลพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ
- อาหาร ที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดไต คือ ไม่รับประทานอาหารที่มีรสเค็ม หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป โปรตีนในปริมาณสูงๆ เช่น เวย์โปรตีน เพื่อเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ การรับประทานที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียให้กับไตได้

-หลีกเลี่ยงยาที่ไม่จำเป็น เช่น ยาแก้ปวดยาสมุนไพร การรับประทานเป็นเวลานานมีผลทำให้ไตทำงานหนักขึ้นได้
-การใช้ชีวิตประจำวัน มีผลเช่นกัน ที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคไต เช่น ไม่เครียดจนเกินไป การออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ ควบคุมน้ำหนัก
-ตรวจร่างกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไตหรือผู้ที่มีประวัติครอบครัว เช่น มีโรคประจำตัว กรรมพันธุ์
โรคไตเสื่อมหรือไตวาย คือภาวะที่มีการทำงานของไตลดลง สามารถแบ่งภาวะไตวายได้เป็น 2 แบบ คือ
1.ไตวายฉับพลัน คือภาวะที่มีการทำงานของไตลดลงอย่างรวดเร็ว บางรายอาจจะรุนแรง ถึงขั้นต้องได้รับการฟอกไตชั่วคราว เมื่อได้รับการดูแลและรักษาที่ถูกต้อง ไตจะสามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ

2. ไตวายเรื้อรัง หรือ ในปัจจุบันเรียกว่าโรคเรื้อรัง คือ ภาวะที่ไตมีการทำงานลดลงไปเรื่อย ๆ โดยจะเป็นมานานมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ถึงแม้จะให้การรักษาที่ถูกต้องแล้วก็ตาม ไตก็ไม่สามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ เปรียบโรคโดยไตเรื้อรังเสมือนขั้นบันได มีหลายระดับขั้น โดยสามารถแบ่งระยะต่างๆ ของโรคไตเรื้อรังได้เป็น 5 ระยะ เมื่อการเสื่อของไตมากขึ้นจนเข้าสู่ระยะที่ 5 หรือไตวายระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นระยะที่ต้องได้รับการบำบัดทดแทนไต ได้แก่ การฟอกเลือดอย่างถาวร การล้างไตทางช่องท้องแบบถาวร หรือการได้รับปลูกถ่ายไต ผู้ป่วยในระยะนี้จะมาด้วยอาการต่างๆ ดังนี้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อย เพลีย ซีด เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอีริโทรโพโอติน (Erythropoietin) บวมมากขึ้น ปัสสาวะออกน้อยลง นอนราบไม่ได้น้ำท่วมปอด ชัก เป็นต้น

การปลูกถ่ายไต คือการผ่าตัดนำไตจากผู้บริจาคมาใส่ให้กับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายเพื่อให้ไตใหม่ทำหน้าที่แทนไตเดิมของผู้ป่วย โดยผู้บริจาคสามารถเป็นผู้ที่เสียชีวิตแล้ว หรือผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือคู่สมรส ถือเป็นการรักษาที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องฟอกไต และสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ
การปลูกถ่ายอวัยวะและเนื้อเยื่อ นับเป็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สำคัญอย่างมากในการช่วยชีวิตและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ตัวอย่างโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สั่งสมประสบการณ์ด้านการปลูกถ่ายไตมาอย่างยาวนานกว่า 37 ปี ตั้งแต่ปี 2530 โดยมีจำนวนผู้ป่วยมาปลูกถ่ายไตเฉลี่ย มากกว่า 20 รายต่อปี และในปี 2564 ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายไตข้ามหมู่เลือดสำเร็จ โรงพยาบาลมีอัตราความสำเร็จในการปลูกถ่ายไตเทียบเท่ากับมาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา แคนาดา หรือยุโรปตะวันตก

จากสถิติพบว่า อัตราการรอดของไตที่ได้รับการปลูกถ่าย 96% ในหนึ่งปี 87% ในห้าปี 75%ในสิบปี เมื่อได้รับการปลูกถ่ายไต อย่างน้อยทำให้ผู้ป่วยมีอิสระได้ใช้เวลามากขึ้น ไม่ต้องไปฟอกไต ในการฟอกไตแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง สองครั้งต่อสัปดาห์ ผู้ป่วยมีกำลังมากขึ้นสุขภาพโดยรวมรวมถึงอายุขัยดีขึ้น ไม่ต้องจำกัดอาหาร จำกัดน้ำมากเพื่อการฟอกไต
การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะของประเทศไทย ทำการผ่าตัดโดยได้รับการจัดสรรอวัยวะจากศูนย์รับบริจาคผ่านทางสภากาชาดไทย
ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ป่วยรอการปลูกถ่ายอวัยวะ สูงถึง 7,486 ราย 95 % เป็นผู้ป่วยที่รอ “ไต” รองลงมาคือ ตับหัวใจ ปอด และตับอ่อน ขณะเดียวกันมีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะแล้ว 946 รายและทุกสัปดาห์ จะมีผู้เสียชีวิตโดยเฉลี่ย2 ราย ระหว่างการรอปลูกถ่ายอวัยวะ
ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคไตขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างรวมถึง อายุของผู้ป่วย สุขภาพของผู้ป่วยถ้าผู้ป่วยแข็งแรงอายุไม่มากค่าใช้จ่ายก็น้อยลง การนอนโรงพยาบาลสั้นลง การรักษาร่วมโรคประจำตัวน้อยลง เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการรักษาของผู้ป่วยโรคไต (ล่าสุดคุณหมอ มีเคสผู้ป่วยปลูกถ่ายไต ค่ารักษาประมาณหนึ่งล้านบาท)
ด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมากหลายๆคนใช้ทางเลือกในการคุ้มครองโรคไตผ่านประกันสุขภาพ ทั้งนี้บริษัทประกันชีวิตจะคุ้มครองเมื่อคุณไม่มีประวัติภาวะโรคไต หรือโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องเช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานตัวอย่างแบบประกันสุขภาพ เช่นกรุงเทพประกันชีวิต แบบประกัน เช่น

-แบบประกันสัญญาเพิ่มเติม บีแอลเอซุปเปอร์แคร์ (BLA Super Care) คุ้มครอง ไตวายเรื้อรัง คุ้มครองการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ
- แบบประกันสัญญาเพิ่มเติม โรคร้ายแรงและมรณกรรม คุ้มครองไตวายเรื้อรัง
-แบบประกันสัญญาเพิ่มเติม แฮปปี้ซีไอ คุ้มครองไตวายเรื้อรัง
-แบประกันสัญญาเพิ่มเติม บีแอลเอ แฮปปี้เฮลท์ พรีเมียร์ ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ให้ความคุ้มครองแบบจ่ายตามจริง (จำกัด 1 ครั้ง,ต่ออายุ copayment )
คุ้มครองไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Failure) หมายถึง อาการไตวายระยะสุดท้ายซึ่งเกิดจากไตวายเรื้อรังทั้งสองข้าง จนไม่สามารถฟื้นกลับมาทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอและเป็นผลทำให้ต้องทำการล้างไตเป็นประจำ หรือต้องทำการปลูกถ่ายไตใหม่
คุ้มครองการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ (Major Organ Transplant) หมายถึง การได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ในฐานะผู้รับ(Recipient) อวัยวะในที่นี้หมายถึงเฉพาะหัวใจ ปอด ตับ ไต ตับอ่อน โดยมีสาเหตุจากการที่อวัยวะนั้นอยู่ในระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถกับมาทำงานได้ดังเดิม
Writer : Better Call Nika
อ้างอิงจาก :
การฟังบรรยายของนายแพทย์ทัตพงศ์ จิตเอื้ออารีย์ แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรแพทย์ไตวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (วันที่ 8 พ.ย. 2568 )
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และอ้างอิงจาก :



ความคิดเห็น